การตรวจสอบและแก้ไขปัญหาเครื่องพีซี

การตรวจสอบและแก้ไขปัญหาเครื่องพีซี
การ ทำงานกับเครื่องคอมพิวเตอร์นั้นไม่ได้หมายว่าใช้งานเป็นแต่เพียงอย่างเดียว แค่นั้นพอ ในบางครั้งบางคราวที่เครื่องมือมีปัญหาต่างๆ เกิดขึ้น บางปัญหาอาจจะเกิดจากสาเหตุเล็กๆ น้อยๆ ที่ซึ่งบางที่เราอาจนึกไม่ถึง หรือด้วยความที่เราไม่รู้วิธีการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นเลย อาจจะทำให้งานของเราล่าช้าหรือต้องเสียเงินค่าซ่อมแซมแพงๆ โดยไม่จำเป็น จึงขอกล่าวถึงวิธีการในการตรวจสอบอาการเสียของเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ซึ่งมัก จะพบเห็นบ่อยๆ พร้อมทั้งแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นด้วยตัวเอง ตลอดจนถึงการดูแลรักษาเครื่องให้อยู่กับเราไปได้อีกนานๆ


การแก้ไขปัญหาเครื่องคอมพิวเตอร์
      ในการแก้ไขปัญหาของเครื่องคอมพิวเตอร์นั้น แบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท คือ
      - ปัญหาทางด้านฮาร์ดแวร์ (Hardware) คือ ปัญหาที่มักจะเกิดขึ้นจากตัวอุปกรณ์เองชำรุด หรือทำงานผิดปกติ ซึ่งอาจจะชำรุดมาตั้งแต่โรงงานผู้ผลิตแล้วก็เป็นได้ ดังนั้นจึงต้องมีการรับประกันสินค้าทุกชิ้นตอนซื้อ แต่ในบางครั้งปัญหาเหล่านี้ก็อาจจะเกิดขึ้นจากตัวเราเอง เช่น เสียบอุปกรณ์ผิดหรือปรับแต่งอุปกรณ์ในการทำงานเกินขีดจำกัด เป็นต้น
      - ปัญหาทางด้านซอฟต์แวร์ (Software) คือ ปัญหาที่มักจะเกิดขึ้นจากตัวโปรแกรมเองทำงานผิดปกติ ซึ่งอาจจะเกิดปัญหาได้ทั้งตัวระบบปฏิบัติการ (OS) และโปรแกรมใช้งานทั่วๆ ไป เช่น ตัวโปรแกรมอาจจะไม่สมบูรณ์ , โปรแกรมที่ใช้งานไม่สามารถทำงานได้บนระบบปฏิบัติการที่ใช้อยู่ หรือถูกไวรัสเข้าไปทำลาย
      - ปัญหาทางด้านของผู้ใช้งานเอง (Users) คือ ปัญหาที่มักจะเกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของผู้ใช้ เช่น การ Overclock CPU และการลองผิดลองถูกต่างๆ


ข้อสังเกตลักษณะและอาการเสียของเครื่องคอมพิวเตอร์
      ใน กรณีที่เครื่องมีปัญหาขึ้นมานั้น จะมีสิ่งบอกเหตุและข้อสังเกตอยู่หลายประการด้วยกัน ซึ่งทำให้เราสามารถทราบและวิเคราะห์อาการเบื้องต้นได้ ว่ามีปัญหามาจากสาเหตุใด จุดที่ใช้สังเกตอาการเสียของคอมพิวเตอร์หลักๆ มีอยู่ 4 จุด คือ


จุดที่ 1 เสียงเตือนจากไบออสเมื่อเครื่องมีความผิดปกติหรือเสียง Beep Code
      เสียง นี้เป็นเสียงเตือนที่จะได้ยินเมื่อเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยเครื่องจะทำการทดสอบการทำงานของตัวมันเอง และแจ้งความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นทุกครั้งเมื่อเราเปิดเครื่อง กระบวนการนี้เรียกว่า การ POST (Power-On Self Test) ซึ่ง เมื่อเครื่องตรวจพบปัญหา หรือไม่พบก็ตามเครื่องจะส่งเสียงแจ้งเตือนให้ทราบ เป็นเสียงสั้นบ้าง ยาวบ้าง โดยเราจะต้องสังเกตและฟังให้ดี สัญญาณเสียงที่เกิดขึ้นเมื่อนามาถอดรหัสแล้วจะทำให้เราทราบว่าปัญหาที่เกิด ขึ้นมาจากสาเหตุใด โดยสัญญาณเสียงที่เกิดขึ้นจะแตกต่างกันออกไปตามแต่ละยี่ห้อไบออสที่อยู่บน เมนบอร์ด ซึ่งมีจุดสังเกตที่ยี่ห้อไบออส และอื่น ๆ


จุดที่ 2 ข้อความเตือนที่ปรากฏบนหน้าจอเวลาเปิดเครื่อง หรือ Error Message
      ในขั้นตอนของกระบวนการตรวจสอบความผิดปกติของเครื่อง หรือการ POST นั้น นอกจากจะตรวจสอบและแจ้งเตือนความผิดปกติด้วยเสียงแล้ว ในบางปัญหาก็ยังแจ้งเป็นข้อความไปปรากฏบนหน้าจอด้วย (หากยังสามารถแสดงผลบนหน้าจอได้อยู่ ในลักษณะข้อความตัวหนังสือสีขาว พื้นหน้าจอสีน้ำเงิน ) ซึ่งเราเรียกว่า "Error Message" ตัวอย่างข้อความเตือนต่อไปนี้


CMOS checksum Error
CMOS BATTERY State Low
HDD Controller Failure
          ข้อความต่าง ๆ ที่แจ้งบนหน้าจอเหล่านั้นเราเรียนกันว่า Error Message    เราสามารถที่จะจดข้อความนั้นแล้วทำการแปลออกมา เพื่อหาจุดที่ผิดพลาดได้อย่างง่ายดาย  ซึ่งข้อความเหล่านั้นหากเกิดขึ้นเราก็ไม่ควรมองข้าม  ถึงแม้ว่าเรายังสามารถที่จะเข้าสู่ระบบได้ตามปกติก็ตาม


จุดที่ 3 หลอดไปแสดงสถานะบนเมนบอร์ด
      บนเมนบอร์ดบางยี่ห้อจะมีหลอดไปแสดงสถานการณ์ทำงานบนเมนบอร์ด (Diagnostic LED) ติดมาด้วย เพื่อช่วยในการตรวจสอบและแสดงสถานะในตอนเปิดเครื่องว่าเครื่องมีปัญหาหรือไม่ โดยอาจจะแสดงออกมาเป็นรหัสตำแหน่งของหลอดไป LED เขียว / แดง 4-5 ดวง หรือเป็นลักษณะบอกเป็นตัวเลขฐาน 16 ก็ได้
      โดยในการถอดรหัสสีหลอดไฟ LED และถอดรหัสตัวเลขฐาน 16 จำ เป็นต้องอาศัยดูจากคู่มือเมนบอร์ดที่ให้มา เพื่อดูว่ารหัสเหล่านั้นหมายถึงอาการผิดปกติที่เกิดขึ้นมาจากสาเหตุใด เพื่อจะได้แก้ไขต่อไป


จุดที่ 4 หลอดไฟแสดงสถานะที่หน้าเครื่อง
      หลัก การในการสังเกตความผิดปกติของเครื่องด้วยวิธีนี้ จะเป็นวิธีที่ไม่ได้ครอบคลุมถึงความผิดปกติของเครื่องทั้งหมดเหมือนวิธี ก่อนๆ แต่วิธีนี้เป็นการสังเกตขั้นพื้นฐานอย่างง่ายๆ เพียงแค่ดูจากหลอดไป LED หน้าเครื่อง ซึ่งโดยปกติแล้วจะมีอยู่ 2 ดวง ดวงแรกสีเขียวหรือ Power LED ส่วนอีกดวงคือสีแดงหรือส้ม ซึ่งก็คือ H.D.D. LED
      หลอดไฟ LED (สีเขียว) หรือ Power LED เป็น หลอดไฟที่ต่อมาจากขั้วต่อบนเมนบอร์ด โดยปกติไฟนี้จะดับอยู่ในขณะที่ไม่ได้เปิด แต่หลังจากเปิดเครื่องแล้วไฟดวงนี้จะติดอยู่ตลอดเวลา เพื่อบอกให้รู้ว่าตอนนี้เครื่องกำลังทำงานอยู่ ดังนั้นถ้าเปิดเครื่องแล้วหลอดไฟดวงนี้ไม่ติดแสดงว่าไฟไม่เข้าเมนบอร์ด
      หลอดไฟ LED (สีแดงหรือส้ม) หรือ H.D.D. LED เป็นหลอดไฟที่ต่อมาจากขั้วต่อบนเมนบอร์ดเช่นกัน ไฟนี้จะติดก็ต่อเมื่อฮาร์ดดิสก์ (ซี ดีรอม) ทำงาน หรือมีการอ่านเขียนข้อมูลลงบนฮาร์ดดิสก์ แต่ในขณะที่ฮาร์ดดิสก์ไม่ได้ทำงานอยู่ไฟดวงนี้จะดับ หรือถ้าไฟดวงนี้ติดค้างอยู่ตลอดเวลาก็แสดงว่ามีปัญหาในการทำงานของ ฮาร์ดดิสก์


ปัญหาทางด้านฮาร์ดแวร์ (Hardware)
      ปัญหา ทางด้านฮาร์ดแวร์นั้นเป็นปัญหาสำคัญที่ถือได้ว่าน่าหนักใจที่สุด เพราะปัญหาเหล่านี้โดยส่วนมากเมื่อเกิดขึ้นแล้วหลายครั้งที่จำเป็นต้อง เปลี่ยนอุปกรณ์ ซึ่งถ้าอุปกรณ์เหล่านั้นยังอยู่ในระยะประกันก็ไม่น่าหนักใจอะไร แต่ถ้าหมดประกันต้องต้องเสียเงินค้าซ่อมหรือไม่ก็ต้องซื้อใหม่สถานเดียว

      ที นี่เมื่อเกิดปัญหาขึ้นกับเครื่องคอมพิวเตอร์ของเรา เราจะมีวิธีการหรือแนวทางในการแก้ไขปัญหาเหล่านั้นได้อย่างไรบ้าง คำตอบต้องแยกแยะไปตามสถานการณ์ดังนี้


แนวทางในการแก้ไข
      ข้อแนะนำและแนวทางในการปฏิบัติเมื่อเกิดปัญหา
      - เมื่อเกิดปัญหาขึ้นกับเครื่องคอมพิวเตอร์ของเรา อย่าตื่นตกใจ พยายามในเย็นๆ ค่อยๆ แก้ปัญหา มองจากง่ายไปหายาก
      - พยายาม วิเคราะห์หาจุดบกพร่องที่เกิดขึ้นว่าน่าจะมาจากสาเหตุใดหรืออุปกรณ์ตัวใดมาก ที่สุด เช่น ไม่มีภาพมาปรากฏที่หน้าจอและหลอดไฟแสดงผลที่หน้าจอเป็นสีส้ม แสดงว่าจอภาพทำงานแต่ไม่มีสัญญาณภาพส่งมาจากตัวเครื่อง สาเหตุอาจจะมาจากสายสัญญาณไม่ได้ต่อไว้หรือหลวม หรืออาจจะเกิดจากตัวการ์ดจอมีปัญหา เป็นต้น
      - ทดลองถอด หรือเปลี่ยนเอาอุปกรณ์ที่แน่ในว่าดีมาใส่แทนอุปกรณ์ที่เราคิดว่าน่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เครื่องมีปัญหา
      - ตรวจเช็คดูว่าอาการที่เกิดขึ้นนั้นหายไปหรือไม่หลังจากทดลองเปลี่ยนอุปกรณ์
      - ถ้า อาการที่เกิดขึ้นนั้นหายไป แสดงว่าสาเหตุอาจจะมาจากอุปกรณ์ตัวนั้น หรือถ้าอาการนั้นไม่หาย ก็ให้ทดลองกับอุปกรณ์ตัวอื่นที่เราคิดว่าน่าจะเป็นสาเหตุดูเพื่อตัดตัวแปร ที่ไม่ใช่ออกทีละตัว
      - เมื่อตรวจพบอุปกรณ์ที่เสียแล้ว ก็ให้ดูก่อนว่ายังอยู่ในระยะประกันหรือไม่ ซึ่ง
      - ถ้ายังอยู่ในระยะประกัน ก็ทำการส่งอุปกรณ์ที่เสียนั้นให้ทางร้านที่ซื้อมา หรือตัวแทนให้ดำเนินการเคลมสินค้าให้
      - ถ้าหมดระยะเวลาประกันแล้ว ก็อาจจะส่งร้านซ่อมที่เชื่อถือได้หรือซื้อมาเปลี่ยนใหม่


ปัญหาทางด้านซอฟต์แวร์ (Software)      ปัญหา ทางด้านของซอฟต์แวร์นั้น ดูจะไม่ใช่ปัญหาที่ใหญ่หลวงอะไรมากนักสำหรับผู้ใช้ทั่วๆ ไป พูดได้ว่าถ้าโปรแกรมที่ใช้งานอยู่วันดีคืนดีเกิดมีปัญหาขึ้นก็แค่ถอดถอน โปรแกรมนั้นออกแล้วค่อยลงโปรแกรมใหม่ก็ได้ แต่ว่าถ้าเป็นโปรแกรมจำพวกระบบปฏิบัติการ หรือวินโดว์เกิดมีปัญหาขึ้นมา แม้ว่าจะไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไรเพราะไม่มีผลเสียตาจากปัญหาทางด้านซอฟต์แวร์ นั้น ที่พบมาก็คือ ไฟล์ระบบเสียหรือสูญหาย ซึ่งอาจจะเป็นผลมาจากการสั่งถอดถอนโปรแกรมที่มีการแชร์ไฟล์ร่วมกับไฟล์ที่ สำคัญๆ บางตัวในระบบ หรืออาจจะเผลอไปลบเอง รวมถึงการเข้าไปทำการแก้ไขค่าต่างๆ ใน Registry ด้วย ซึ่งปัญหาเหล่านี้ล้วนแล้วแต่ทำให้บู๊ตเข้าวินโดว์ไม่ได้ทั้งสิ้น
 

Copyright © ictoutsource Design by Free CSS Templates | Blogger Theme by BTDesigner | Powered by Blogger